ข้อควรระวังในการวัดความต้านทานภายในของแบตเตอรี่ลิเธียม
1. สภาพแวดล้อมในการวัด:
การควบคุมอุณหภูมิ: รักษาอุณหภูมิของสภาพแวดล้อมในการวัดให้คงที่ เนื่องจากอุณหภูมิมีผลอย่างมากต่อความต้านทานภายในของแบตเตอรี่ลิเธียม โดยทั่วไป การวัดควรทำภายในช่วงอุณหภูมิที่กำหนด และควรทำการแก้ไขค่าผลการวัดตามอุณหภูมิ
การควบคุมความชื้น: หลีกเลี่ยงความชื้นที่สูงเกินไป เพื่อป้องกันไม่ให้ส่งผลต่อประสิทธิภาพของอุปกรณ์วัดและแบตเตอรี่
2. การปรับเทียบเครื่องมือวัด:
การปรับเทียบเป็นประจำ: อุปกรณ์วัดควรถูกปรับเทียบอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้แน่ใจว่าผลการวัดมีความถูกต้องแม่นยำ
การเลือกความแม่นยำ: เลือกอุปกรณ์วัดที่มีความแม่นยำเหมาะสมตามความต้องการในการวัด
3. สภาพของแบตเตอรี่:
สถานะการชาร์จ: ก่อนทำการวัด ควรกำหนดสถานะการชาร์จของแบตเตอรี่ให้ชัดเจน เช่น ชาร์จเต็มแล้ว ชาร์จบางส่วน หรือปล่อยประจุแล้ว ความต้านทานภายในอาจแตกต่างกันในแต่ละสถานะ
ระยะเวลาพัก: ก่อนการวัด แบตเตอรี่ควรถูกทิ้งไว้เพื่อพักรอจนกระทั่งอยู่ในสภาวะคงที่ภายใน
4. ความต้านทานที่จุดสัมผัส:
ปรับปรุงการเชื่อมต่อ: ตรวจสอบให้มั่นใจว่ามีการสัมผัสที่ดีระหว่างอุปกรณ์วัดและขั้วแบตเตอรี่ เพื่อลดผลกระทบจากความต้านทานที่จุดสัมผัสต่อผลการวัด
ทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัส: รักษาความสะอาดของพื้นผิวสัมผัสระหว่างขั้วแบตเตอรี่กับอุปกรณ์ กำจัดสิ่งสกปรกและออกไซด์
5. ความถี่และเวลาในการวัด:
เลือกความถี่ในการวัด: เลือกความถี่ในการวัดที่เหมาะสมตามคุณสมบัติของแบตเตอรี่และวัตถุประสงค์ในการวัด
เวลาในการวัด: ควบคุมระยะเวลาในการวัดให้เหมาะสม เพื่อหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของแบตเตอรี่ที่เกิดจากการวัดเป็นเวลานาน
6. การวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูล:
การวัดซ้ำ: ทำการวัดหลายครั้งและหาค่าเฉลี่ยเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของผลการวัด
การจัดการค่าผิดปกติ: วิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลที่เป็นค่าผิดปกติ เพื่อพิจารณาว่าเป็นข้อผิดพลาดในการวัดหรือไม่
อ่านคำแนะนำ:
เครื่องไฟฟ้าพกพา 220v
แนวโน้มตลาดแบตเตอรี่ลิเธียมโพลิเมอร์
SPS002 การวางซ้อนกัน
PB600UK
PB-MN500W